หอคอยแห่งลอนดอน: ตำนาน เรื่องเล่า และความลึกลับ
หอคอยแห่งลอนดอน สถานที่อันเก่าแก่ตั้งตระหง่านริมแม่น้ำเทมส์ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ไม่ได้เป็นเพียงแค่ป้อมปราการและพระราชวัง แต่มันยังเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวมากมาย หลายเรื่องราวเป็นตำนาน เรื่องเล่า และความลึกลับที่สืบทอดมายาวนานจนถึงปัจจุบัน
ตำนานการก่อสร้าง:
เชื่อกันว่าหอคอยแห่งลอนดอนสร้างขึ้นบนซากปรักหักพังของพระราชวังโรมันโบราณ ตำนานเล่าขานถึงนกแร้งตัวหนึ่งที่บินวนเวียนอยู่เหนือสถานที่ก่อสร้าง นกแร้งนี้ถูกตีความว่าเป็นสัญลักษณ์ของความตาย ทำให้กษัตริย์วิลเลียมผู้พิชิต กังวลว่าหอคอยแห่งนี้จะนำพาความโชคร้ายมาสู่เขา
คุกใต้ดินอันโหดร้าย:
หอคอยแห่งลอนดอนถูกใช้เป็นคุกใต้ดินสำหรับกักขังนักโทษทางการเมืองและศัตรูของราชวงศ์ หลายคนต้องเผชิญชะตากรรมอันเลวร้าย ถูกทรมาน และประหารชีวิต
เรื่องราวสยองขวัญ:
หอคอยแห่งลอนดอนเป็นที่เล่าขานถึงเรื่องราวสยองขวัญมากมาย หนึ่งในเรื่องราวที่โด่งดังที่สุดคือเรื่องราวของ “เจ้าชายน้อยในหอคอย” สองพี่น้อง เจ้าชายเอ็ดเวิร์ดที่ 5 และ เจ้าชายริชาร์ด ดยุคแห่งยอร์ก หายตัวไปอย่างปริศนาภายในหอคอยแห่งนี้ เชื่อกันว่าพวกเขาถูกฆาตกรรมโดยลุงของพวกเขา พระเจ้าริชาร์ดที่ 3
วิญญาณเร่ร่อน:
ด้วยเรื่องราวโหดร้ายและการตายที่ไม่สงบ ทำให้หอคอยแห่งลอนดอน เต็มไปด้วยเรื่องเล่าเกี่ยวกับวิญญาณเร่ร่อน หลายคนอ้างว่าเคยเห็นวิญญาณของเจ้าชายน้อย เจ้าหญิงแอนน์ โบลีน และวิญญาณอื่นๆ อีกมากมาย
Yeoman Warders หรือ Beefeaters:
Yeoman Warders หรือ Beefeaters ทหารยามประจำหอคอยแห่งลอนดอน มีหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัยและนำชมสถานที่ ตำนานเล่าว่า Beefeaters คนแรกคือ Sir Thomas Boleyn พ่อของ Anne Boleyn เชื่อกันว่าวิญญาณของเขายังคงวนเวียนอยู่ภายในหอคอย
มงกุฎเพชร:
หอคอยแห่งลอนดอนเป็นที่เก็บรักษามงกุฎเพชรของราชวงศ์อังกฤษ มงกุฎเพชรเหล่านี้มีความสวยงามและล้ำค่า แต่ gleichzeitig ก็เต็มไปด้วยคำสาปและเรื่องราวลึกลับ
หอคอยแห่งลอนดอน: สถานที่ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ ตำนาน เรื่องเล่า และความลึกลับ ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาสัมผัสประสบการณ์ความน่าขนลุกและค้นหาความจริงที่ซ่อนอยู่
หมายเหตุ:
- ข้อมูลข้างต้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของเรื่องราวทั้งหมดเกี่ยวกับหอคอยแห่งลอนดอน ยังมีเรื่องราวอีกมากมายรอให้คุณค้นหา
- หอคอยแห่งลอนดอนเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในกรุงลอนดอน เหมาะสำหรับผู้ที่สนใจประวัติศาสตร์ ตำนาน และเรื่องราวลึกลับ
Tower of London หอคอยแห่งลอนดอน พระราชวังหลวงเก่าแก่ที่สำคัญของอังกฤษ หากใครได้ไปเที่ยวลอนดอน ที่นี่คือสถานที่ท่องเที่ยวแรกๆ ที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง แต่หลังจากที่ฟ้ามืดลง นักท่องเที่ยวเริ่มซา ประตูต่างๆ ปิดเงียบสนิท Tower of London กลับกลายเป็น หอคอยสุดเฮี้ยน ที่หลายคนเชื่อกันว่าเป็น สถานที่ผีดุ ที่สุดที่หนึ่งในโลก เพราะที่นี่เต็มไปด้วย เรื่องผี เรื่องราวสุดสยองขวัญในอดีตอัดแน่นกันอยู่นั่นเอง!
ที่มาของความหลอน เรื่องผี สุดเฮี้ยน สถานที่ผีดุ Tower of London อังกฤษ
Tower of London แห่งนี้เคยเป็นพระราชวังหลวง และป้อมปราการ ซึ่งสร้างโดยพระเจ้าวิลเลียมที่ 1 แห่งอังกฤษ เมื่อปี ค.ศ. 1078 ตั้งโดดเด่นเป็นสง่าริมฝั่งแม่น้ำเทมส์ของกรุงลอนดอน ความสวยและสง่างามของพระราชวังหลวงแห่งนี้ มาจากการก่อสร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบโรมาเนสก์นั่นเอง
หอคอยแห่งลอนดอน ภายในมีหอคอยกว่า 20 แห่ง และอาคารหลังใหญ่อีกหลายหลัง ภายในวงล้อมของกำแพงอันแข็งแกร่งนี้ เป็นการสร้างขึ้นเพื่อป้องกันการโจมตีของชาวเมืองที่ต่อต้านชาวนอร์มัน และการป้องกันลอนดอนจากการรุกรานของข้าศึกจากภายนอก อีกทั้งที่นี่ใช้เป็นพระราชฐานมาจนถึงพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 1 จนกระทั่งถึงช่วงเปลี่ยนแปลงระบบการปกครองของอังกฤษจึงมีคำสั่งให้รื้อส่วนที่เป็นพระราชวังทิ้งไป…
แม้หอคอยแห่งนี้ถูกสร้างมากว่าพันปีแล้ว แต่ความสง่างามก็ยังคงอยู่ เป็นโบราณสถานเก่าแก่ที่ทรงคุณค่า และเคยผ่านเรื่องราวทางประวัติศาสตร์มามากมาย อีกทั้งยังเคยใช้เป็นป้อมที่ขังนักโทษที่มียศศักดิ์สูง เจ้านาย ขุนนางต่างๆ รวมถึงยังเป็นสถานที่สำหรับประหารชีวิต และทรมานนักโทษ ทำให้หอคอยแห่งนี้มีเสียงร่ำลือกันในเรื่องของการพบเจอวิญญาณอยู่เรื่อยๆ ตั้งแต่วิญญาณขุนนาง ไปจนถึงวิญญาณอาฆาตสุดสยองขวัญ
วิญญาณเจ้าชาย ที่ Bloody Tower
Bloody Tower หรือ หอคอยเลือด เป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างของหอคอยแห่งลอนดอน เคยมีประวัติเล่าว่า พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 5 และ เจ้าชายริชาร์ด ดยุคแห่งยอร์ก สองพี่น้องผู้สืบทอดราชบัลลังก์อังกฤษ ได้หายตัวไปอย่างปริศนา ณ หอคอยเลือดแห่งนี้ บ้างก็ว่าเหตุเกิดจากการฆ่าเด็กน้อยทั้งสองเพื่อชิงราชบัลลังก์ของคนในราชวงศ์หลังจากพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 4 สวรรคตไป
แต่สิ่งที่ยังคงอยู่ในใจของชาวอังกฤษนั้นก็คือ วิญญาณของเจ้าชายทั้งสองยังคงวนเวียนอยู่ในหอคอยเลือดแห่งนี้ โดยมีการบอกเล่ากันปากต่อปากว่า เห็นวิญญาณของเด็กน้อย 2 คนในชุดขาว จูงมือกันและเลือนหายเข้าไปในกำแพงของหอคอยเลือด…
ความหลอนยังไม่จบแค่นี้ เมื่อปี 1674 ช่างซ่อมหอคอย ได้เข้ามาซ่อมแซม และทุบบันไดหินทางใต้ของ White Tower หรือ หอคอยขาว ในหอคอยแห่งลอนดอนซึ่งคาดว่าเป็นที่ฝังเจ้าชายทั้ง 2 ไว้ในอดีต ก็ได้พบกับหัวกะโหลกของเด็ก 2 ชิ้นด้วยกัน แม้จะพิสูจน์ไม่ได้ว่า กะโหลกศีรษะทั้งสอง จะเป็นของเจ้าชายหรือไม่ แต่ประชาชนชาวอังกฤษก็ปักใจเชื่ออย่างสนิทใจไปแล้ว
วิญญาณพระนางแอนน์ โบลินน์ ผีเฮี้ยนสุดหลอนแห่งหอคอย
วิญญาณที่เล่าขานกันว่ามาปรากฎให้เห็นบ่อยๆ ที่หอคอยแห่งลอนดอนก็คือ วิญญาณของพระนางแอนน์ โบลินน์ มเหสีองค์ที่ 2 ในพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 ซึ่งถูกประหารชีวิตฐานคบชู้ และเป็นแม่มด แน่นอนว่าช่วงยุคมืดในยุโรป มีการล่าแม่มดกันเป็นปกติ ทำให้คนดีที่ไม่ถูกใจหลายคนก็กลายเป็นแม่มด และโดนเผา หรือตัดคอกันเป็นว่าเล่น ซึ่งพระนางแอนน์ โบลินน์ก็เป็นหนึ่งในนั้น
“ความไม่ผิดของนางอาจจะทำให้วิญญาณวนเวียนและไม่ไปสู่สุขคติ” นี่คือสิ่งที่ชาวเมืองคิด และส่งต่อความเชื่อนี้มาจนถึงปัจจุบัน เพราะมีการพูดถึงว่า ตอนนั้นพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 ต้องการอภิเษกสมรสกับมเหสีใหม่ จึงต้องการกำจัดพระนางแอนน์ โบลินน์ไปให้พ้นทาง โดยจัดฉากโยนความผิดให้ พร้อมหลักฐานเท็จให้
แน่นอนว่า การประหารพระนางแอนน์ก็เกิดขึ้นอย่างเลี่ยงไม่ได้ จุดประหารพระนางมีชื่อว่า “ทาวเวอร์กรีน” เป็นสนามหญ้าซึ่งอยู่ในเขตหอคอยแห่งลอนดอน ว่ากันว่าตอนประหารพระนาง เพชฌฆาตยกพระเศียรขึ้นชู พระเนตรของพระนางยังคงลืมอยู่ และพระโอษฐ์ก็ขมุบขมิบเหมือนกำลังสาปแช่ง…
จนถึงทุกวันนี้ หลายคนมักเห็นพระนางมาปรากฏกายให้เห็นแบบผีหัวขาด เคยมีเรืองเล่ากันว่า ทหารยามเห็นผู้หญิงสวมผ้าคลุมศีรษะเดินเล่นริมระเบียงที่ถูกปิดตาย แต่มีลักษณะหิ้วศีรษะไว้ในมือ ไม่ก็จะได้ยินเสียงลากโซ่ตรวนในห้องประหารแล้วกรีดร้องจนถึงทุกวันนี้ก็ยังคงมีเหตุการณ์แปลกๆ ให้เห็นทุกคืน
เสียงกรีดร้องอันโหยหวน ของ เลดี้เจน เกรย์
หลังจากการสวรรคตของพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 ราชบัลลังก์ก็ตกอยู่ในมือของพระราชโอรสเพียงแค่ชั่วอึดใจ ไม่นานกษัตริย์องค์ใหม่ก็จากไปเช่นกัน รัชทายาทองค์รองลงมาที่ต้องดูแลราชบัลลังก์แห่งอังกฤษต่อก็คือ เจ้าหญิงแมรี่ ซึ่งมีพระราชมารดาเป็นคนสเปน จึงเกิดกระแสการคัดค้านขึ้นกับขุนนางบางฝ่าย
ขุนนางที่ไม่อยากให้สเปนมามีอำนาจในแผ่นดินอังกฤษก็ลุกขึ้นสนับสนุน เลดี้เจน เกรย์ สาวน้อยวัย 15 ปีให้ขึ้นครองราชย์ แต่หลังจากการครองราชย์เพียง 9 วัน ก็เกิดรัฐประหารขึ้นโดยกลุ่มผู้สนับสนุนเจ้าหญิงแมรี่ แน่นอนว่า เลดี้เจน เกรย์ ผู้ไร้เดียงสาก็ถูกนำตัวมาประหารที่หอคอยแห่งลอนดอน
ความโศกเศร้าของหญิงสาวได้เปลี่ยนเป็นเสียงกรีดร้องอันโหยหวนดังกึกก้องทั่วหอคอยจนถึงทุกวันนี้ มีคนเคยพบเห็น วิญญาณของพระนางวิ่งอย่างรวดเร็วไปตามเชิงเทียนท่ามกลางแสงจันทร์ และกรีดร้องด้วยความอาวรณ์ต่อชีวิตอันแสนสั้นของตัวเอง
ความตายสุดทรมานของ เลดี้ มาร์กาเร็ต โพล
หลังจากการสวรรคตของพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 ก็มีเหตุการณ์ขึ้นมากมาย และเหตุการณ์นองเลือดนี้ก็คือหนึ่งในนั้น เลดี้ มาร์กาเร็ต โพล ได้ถูกตั้งข้อสงสัยว่าลูกชายของพระนางเป็นกบฏที่ฝักใฝ่ในฝรั่งเศส ซึ่งเป็นคู่อริกับอังกฤษตลอดกาล
พระนางถูกตัดสินประหารด้วยการตัดคอเช่นเดียวกับคนอื่นๆ แต่ก่อนจะสิ้นชีพนั้น พระนางได้ขัดขืนพระองค์อย่างสุดกำลัง ทำให้เพชฌฆาตลงมือพลาดไปโดนไหล่จนแหลก เสียงร้องโหยหวนของพระนางดังก้องทั่วหอคอยแห่งลอนดอน และเพชฌฆาตต้องลงมือต่อถึงสิบกว่าครั้งกว่าพระนางจะสิ้นใจ เหตุการณ์นี้นับว่าเป็นการประหารตัดคอที่ทรมานที่สุดที่เกิดขึ้น ณ ที่นี้ นอกจากวิญญาณของเหล่าราชวงศ์ ขุนนางต่างๆ มากมายที่ยังคงวนเวียนอยู่ในหอคอยแห่งลอนดอน ยังมีจำนวนนักโทษอีกไม่น้อยที่ต้องจบชีวิตลงที่นี่อย่างโหดร้าย เพราะหอคอยแห่งนี้เคยถูกใช้เป็นที่คุมขังนักโทษ และลานประหารอีกด้วย
หอคอยอันสวยงาม และเปี่ยมไปด้วยประวัติศาสตร์แห่งอังกฤษ “Tower of London” ยังคงเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปชมความสง่างาม คุณค่าทางศิลปะ และความเกรียงไกร แต่ในความแข็งแกร่งของหอคอยนั้น ยังสะท้อนถึงความน่าขนลุก เรื่องราวสุดสยองขวัญ และน่าหดหู่อย่างบอกไม่ถูก