เอาล่ะเตรียมผ้าห่มกับหมอนแล้วมานอนฟังเรื่องนี้ไปพร้อมๆกันกับผมกู๊ดบั้ม Story โดยงานเขียนเรื่องนี้นั้นผมต้องบอกเลยว่ายกเครดิตให้ผลงานเครดิตหนังที่เพิ่งดูจบหลังจากที่นั่งอ่านมาครึ่งหนึ่งผมก็ดันตัวเองลุกขึ้นจากโซฟาและเดินไปที่ห้องครัวยืดเส้นยืดสายให้คลายเมื่อยผมเปิดตู้เย็นและเห็นน้ำผลไม้ที่เหลือเต็มกล่องหลังจากนั้นก็กระดกมันจนหมดขวดพร้อมกับนั่งลงที่เคาน์เตอร์ครัวข้างหน้าต่างเปิดผมมองออกไปข้างนอกทำให้ผมต้องตกใจอย่างมากเพราะผมดันไปเห็นเงาสีดำเป็นผู้ชายร่างใหญ่ยืนอยู่ข้างนอกหน้าต่างเพื่อเฝ้าดูผมอยู่ผมตกใจมากๆ แต่ทันใดนั้นเพื่อนผมที่นัดกันไว้ก็โทรมาหาผมและบอกว่าจะออกไปเที่ยวป่ากันในอีกไม่นานผมดีใจมากเพราะจะได้ออกจากบ้านหลังนี้สักที
ก็ตามหาอะไรร้อนๆตามสวนมันว่างเปล่าแล้วมืดบางทีผมก็แอบหวังให้เราเลี้ยงสัตว์นะจะเป็นหมาหรือแมวกัดตายแต่คนพวกมันก็ทำให้ผมจำและตาผมจะเริ่มแดงและคันดังนั้นพ่อผมก็เลยห้ามแม้ว่าผมจะไม่ได้ว่าอะไรตอนนี้ 9:20 น ผมเอากล่องน้ำผลไม้ที่ยังเหลืออยู่เก็บเข้าตู้เย็นแล้วกลับมานั่งข้างหน้าต่างปีนขึ้นบนเคาน์เตอร์อีกครั้งผมลืมออกไปที่สวนและมองประจำแต่ละเหงาและดูว่าทุกอย่างเข้าที่เข้าทางผมมายืนอยู่ในรูปร่างปกติเป็นต้นไม้เล็กๆ 2 ตนตั้งอยู่ข้างกันหลังรั้วและโต๊ะเหล็กพร้อมเก้าอี้ 4 ตัวตั้งอยู่ที่ลานบานผมชอบมองเช็คอะไรพรุ่งนี้ซึ่งก็เป็นเหตุผลหลักๆที่ทำให้ผมไม่กลัวกว่ามือผมชอบตื่นกลางดึกเพื่อสำรวจเสียงเล็กๆน้อยๆและผมก็เกลียดการนอนหันหน้าเข้าหากำแพงเพราะถ้ามีใครเข้ามาในห้องผมผมก็อยากจะรู้ตัวมากกว่าเพราะอย่างน้อยก็มีโอกาสจะหนีได้นั่นก็หมายความว่าความกังวลของผมมักจะสงบได้อย่างรวดเร็วตอนที่ผมเห็นอะไรที่ชั้นล่างนอกจากการต้มน้ำเดือดหรือตอนที่ลืมตาขึ้นมาเห็นห้องนอนว่างเปล่าการไม่รู้ว่าอะไรที่ทำมาจากห้องครัวและบันไดรู้จักในห้องของผมเองมาทำให้ผมขนลุก 9:30 น ผมลงจะขอเติมเรื่องกลับไปที่ห้องนั่งเล่นเพื่อปิด AV และตัดสินใจเอานะผลไม้ที่เหลือขึ้นไปชั้นบนผมเดินกลับมาที่ครัวเปิดตู้เย็นและอยู่แต่งหน้าไปที่นอกหน้าต่างเห็นใครบางคนยืนอยู่ที่สวนผมรีบปิดตู้เย็นแล้วปิดไฟก็ทำให้เขามองไม่เห็นผมแล้วค่อยๆขยับเข้าไปใกล้เธอก็จะมองเห็นได้ชัดคืนฉันล็อคประตูทุกบานหมดแล้วและเพื่อนบ้านก็อยู่บ้านด้วยผมบอกตัวเองในใจหัวใจผมเต้นเร็วขึ้นขณะที่ผมพยายามยื้อตามองรูปร่างของเขาหรือเธอที่อยู่ปลายส่วนผมต้องละสายตาออกไปบ่อยๆเพื่อให้เราที่ไม่ชัดของเขานานชัดขึ้นที่ใช้จ่าและเขายืนนิ่งมากๆและผอมบางงานทั้งหมดที่ผมเห็นและผมก็บอกว่าอย่างอื่นนอกจากนี้ไม่ได้แล้วอ้าวผมพูดออกมาดังๆในสวนอยู่ที่รั้วด้านหลังผมลืมไปว่าเราใช้มันตอนทำบาร์บีคิวผมงงกับตัวเองดีใจที่ไม่ได้ฉี่ราดแล้วเดินขึ้นชั้นบนไปที่ห้องนอนผมนั่งลงบนเตียงและสัตว์มเปิด Notebook ตั้งไว้บนจากฤดูว่ายังมีใครที่ออนไลน์อยู่ไหมเห็นได้ชัดว่ามีคนกำลังเบื่อและเห็นชื่อผมได้ขึ้นมามีข้อความส่งมาจากเขตเป็นไงเบื่อพ่อแม่นายยังไม่กลับใช่ไหมอีก 2-3 วันนู่นทำไมไม่ให้ไปหาล่ะฉันไม่อยากจะเสียมารยาทหรืออะไรหรอกนะแต่ฉันไม่ค่อยอยากเชื่อคืนนี้น่ะขอบใจไม่เป็นไรพรุ่งนี้เราว่าไงฟังดูดีขึ้นเยอะเจ๋งฉันจะไปหาตอน 19:00 น แล้วฉันมีงานบ้านให้ทำตอนเช้าโอเคว่าแต่เป็นมายังอยู่ไหมก็อาจจะต้องใช้ในสวนหรืออะไรก็ได้ปาร์ตี้ชุดนอนงั้นหรอฉันก็รักนายนะเพื่อนเพื่อนตกลงนายมีไหมเนี่ยอยู่ไหนสักที่แหละไปดูแป๊บเดี๋ยวมาผมรู้จักเตียงและตรงดิ่งไปที่ห้องเก็บของใต้บันไดผมไม่รู้ว่าเต้นอยู่ไหนแต่มันดูเหมือนเป็นที่ควรจะเริ่มหาผมเปิดห้องเก็บของเริ่มขยับเข้าของข้างในมีกองกล่องกระดาษวางซ้อนกันอยู่ที่ด้านหลังและอาจจะทับมันอยู่ผมเริ่มหยิบมันออกมาผมอยู่ด้านบนออกมา 2-3 อันก่อนเป็นถุงเป็นผมจะบอกมาอีกกล่องแล้วโน้มตัวเข้าไปหยิบถุงแล้วเอาร่มส่วนใหญ่ที่วางอยู่ข้างๆออกมาด้วยเผื่อไว้พรุ่งนี้ฝนตกผมหยุดระหว่างเต็นท์ลงใช้เวลา 2-3 วิในการเดินกลับไปที่หน้าต่างห้องครัวและต้องมองออกไปที่ความมืดกันนอกถ้าผมยังไม่ปรับให้เข้ากับแสงเพราะงั้นผมเรียกมองไม่เห็นรั้วด้านหลังผมปิดไฟห้องครัวและน้องเป็นคนเขา ไม่แน่ใจว่าอยากจะเห็นอะไรความมืดได้มอบภาพเดิมที่ผมเคยมาแต่หลังจากนั้นไม่นานผมก็เห็นเงาที่ยังยืนนิ่งอยู่ตรงรั้วที่สวนด้านหลังมันเด้งไม่เคลื่อนไหวผมยืนจ้องมันอยู่ 15 นาทีผมระบุรูปร่างของมันเป็นไปไม่ได้แต่ดูเหมือนมีใครบางคนยืนอยู่ตรงนั้นเลยผมตัดสินใจว่าไม่น่าจะมีอะไรหรอกผมว่าถ้าไม่เป็นอันตรายจริงๆผมคงกังวลมากกว่านี้ไปแล้วความคิดนั้นทำให้ใจสงบลงแต่ผมก็ยังอยากรู้ว่ามันคืออะไรกันแน่ผมอยู่ตรงนั้นทั้งชาติไม่ได้หรอกผมรีบวิ่งขึ้นบันไดไปหยิบโน๊ตบุ๊คแค่เปิดมากินเอง หรือไม่ลงมาที่เคาน์เตอร์ครัวแล้วถึงข้อความไปหาเฟซไหนมาหาฉันตอนนี้เลยได้ไหมเธอนะฉันว่าฉันเห็นบ้างอยากอยู่ในสวนหลายๆศาสตร์หรอเรามันสูงไปคิดว่าเป็นร่มแล้วตอนนี้นายแน่ใจแล้วใช่ไหมว่าไม่ใช่ฉันไม่รู้เธอคิดว่าเป็นคนแต่ตอนนี้ใช่แน่ใจแล้วไม่ใช่คนมันก็ดูแปลกๆแต่ก็คิดว่ามันไม่น่าจะอยู่ตรงนั้นมาตั้งแต่แรกตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้สิบางทีอาจจะวันนี้ละมั้งฉันก็จะไม่ได้น่ากลัวว่าหรอเห็นว่าก็คงดีกว่าถ้ามีใครมาอยู่ด้วยน่ะก็นะตอนแรกก็ว่าจะไปหาแล้วก็เบื่ออยู่ด้วยงั้นมาใช่ไหมเดี๋ยวไปเจ๋งแก๊งเพื่อนเขาทำประตูหน้านะผมนั่งอยู่ตรงนั้นหัวอยู่อีก 10 นาทีในที่สุดกูก็ดังคืนแล้วก็วิ่งเข้ามากอดผมขึ้นไปแล้วเพื่อนลองให้ผมตอบก่อนจะยิ้มประมาณเขาตอบแรกๆทำเป็นไม่สนใจผมมาเหอะตรงนี้ผมพูดก็ได้เดินไปที่ห้องครัวผมปิดไฟแล้วชีวิตทางเราดันดูนั่นขอเวลาแป๊บฉันมองไม่ค่อยเห็นไอ้ดำๆนั่นหรอเขาพูดเราทั้งคู่ยืนนิ่งแล้วต้องมองกันอยู่สักพักผมก็แอบหวังให้มันหายไปตอนที่เขาจ้องอยู่เขาโน้มตัวมาบ่นเขาแต่มันก็แค่ต้นไม้ใหญ่ๆหรือแผ่นไม้สักอย่างแหละไปหาดูทีวีกันดีกว่าเพื่อนเขาพูดในที่สุดในไปดูกับฉันได้ไหมฉันอยากจะเช็คให้ชัวร์ก่อนผมถามน้ามีไฟฉายไหมล่ะผมใส่นางั้นเราก็เช็คดูได้ถ้าเปิดไฟห้องครัวไว้ยังงั้นประตูทางออกไปนิดเขาเสนอความคิดก็จะตอบตกลงจะบอกว่าเราก็คงจะอยู่ในบ้านด้วยพระเดือนตุลาคมเท้าผ้าใบเปิดประตูหลัง 9 ออกไปบนหลังบานผมรู้สึกว่าอากาศคืนนี้มันๆเดินตามมาข้างหลังก็ยืนอยู่ติดกับประตู 2 มองออกไปที่รั้วด้านหลังเราน่าจะผมพึ่งจะเริ่มพูดตอนที่เขารีบเข้าไปในบ้านตายังจ้องมองไปที่รั้วอะไรผมถามและตามเขาไปเพราะมันกลับไปแล้วเพิ่งจะหนักได้ว่าเรานั้นมันหายไปแล้วมีแสงส่องมาจากประตูหลังทำให้เห็นได้ชัดเจนเลยว่าทั้งรั้วและส่วนที่เหลือของส่วนมันก็อยู่เหมือนเดิมอย่างที่ควรจะเป็นมาตลอดมันไปไหนแล้วพูดถ้ามันพิมพ์รัวอยู่มันก็จะเดินไปข้างหลังในพุ่มไม้แล้วมั้งผมพยายามปลอบใจเราทั้งคู่เราต้องมองออกไปอีก 2-3 วันแล้วตัดสินใจว่าเราคงไม่กล้าไปดูปกติผมไม่ยอมแพ้ความกลัวไม่ต้องขึ้นแบบนี้หรอกแต่จู่ๆมันก็เข้ามาในหัวใจงานในครั้งนี้ได้ไหมผมถามคริสแน่นอนต้องดูเหมือนเขาไม่อยากเลยตาเขายังมองอยู่ที่รั้วเราทั้งคู่เข้ามาในบ้านนะประตูก่อนจะเดินขึ้นห้องผมผมหยิบมาให้คริสต์และผิดพลาดมาโดยที่ไม่ได้มองออกไปก็คุยกันเรื่องสัพเพเหระอยู่หลายชั่วโมงเพื่อไม่ให้กลับไปคิดเรื่องสวนก็จะเผลอหลับไปเช้าวันต่อมาผมเห็นว่ามันว่างเปล่าแล้วโทรไปหาเขาบอกว่าอยู่ชั้นล่างเสื้อเชิ้ตมาใส่ก็จะเดินตามลงไปเป็นไงนอนหลับไหมเมื่อคืนผมถามก็ได้อยู่แต่ฉันก็ยังคิดเรื่องสวนแล้วก็หลายๆเรื่องแล้วตกลงในเธอเป็นไหมเขาถามกลับเจอสิผมตอบโดยคิดถึงนะที่ผมลืมไปแล้วจะกระทำเมื่อกี้ก็นะก็นั่งคิดเรื่องการตั้งเต็นท์อยู่และคิดว่าบางทีเราอาจจะเอาเต็มที่บ้านฉันแบบคืนบรรยากาศน่ะผมไม่ต้องถามเขาเลยว่าทำไม แล้วฝนก็อยากจะออกไปดูตอนที่มันไม่ได้มืดอย่างเมื่อคืนผมถามเครสแล้วเขาก็ตอบตกลงยังไม่ค่อยมั่นใจเราใส่รองเท้าแล้วก็ออกไปที่สวนผมไม่รู้ว่าเราจะต้องกังวลเรื่องอะไรอีกเพราะมันทั้งสว่างและสีสันสดใสทั้งต้นไม้ใบหญ้ารอบคอบสวนทุเรียนสดชื่นแล้วนกร้องอยู่ที่ไหนสักแห่งถ้าเกินไปเที่ยวรั้วด้านหลังและเห็นว่าไม่มีอะไรผิดปกติและมองข้ามพุ่มไม้เพื่อดูว่ามีอะไรอยู่ด้านหลังหรือเปล่าฉันก็ไม่มีผมเดินไปตามขอบของทั้งส่วนอีกรอบขณะที่คริสปากับนกขี้ใส่หัวเป็นซ้ายขวาพยายามสำหรับเขา Perfect การตั้งแต่ในตอนเย็นน่ะนากระทู้พูดคุยกันขณะที่เอาถุงนอนทหารเรียกว่าสายเปย์เราไม่อยากก่อไฟโรงงานแล้วก็เลยหยิบฮอทดอกกระป๋องขนมปังมะเขือเทศ 1 ถุงแล้วก็ช็อกโกแลตข้างๆกับน้ำส้มขวดไม่มีป่าเล็กๆอยู่ข้างๆบ้านฉันซึ่งก็หมายเวลาคริสบอกส่วนของเราด้านหลังติดกับมันเคยตั้งเต็นท์อยู่ครั้งหนึ่งกับพ่อตอน 7 ขวบจำได้ว่าตอนนั้นโคตรตื่นเต้นฉันคิดว่าตอนนั้นพวกเราโคตรโหดเหมือนพวกนักปีนเขามือโปรเลยหัวเราะคิกคักกับตัวเองถ้ามันหนาวเกินเรียกได้ทะเบียนเพิ่มแล้วก็แค่เข้าบ้านฉันพ่อแม่ก็ไม่อยู่เพราะงั้นเราก็สบายเขาบอกพ่อแม่นายก็ไม่อยู่งั้นหรอผมถามมันเป็นวันครบรอบของพวกเขาน่ะพวกเขาก็เลยออกไปตอนกลางคืนพ่อแม่จะไปอยู่โรงแรมที่เมืองกลางๆแล้วจะกลับมาตอนเช้าเขาบอกกลายเป็นว่าการที่เด็กๆแกล้งเพื่อนตอนซัมเมอร์สง่าประมาณหลังเที่ยงหน่อยๆเพราะออกจากบ้านผมพร้อมพี่ 2 ใบถุงนอนสำหรับ 2 คนแล้วก็เต้นเดินไปที่บ้านคริสมันอยู่ใกล้ๆในเขตเดียวกันเราเดินและคุยไปข้าง จะค่อยๆยุบลงไปที่ชั้นล่างประตูห้องครัวมันก็ยังรักอยู่และไม่มีอะไรอย่างอื่นอยู่ในบ้านผมเอาไปที่หน้าต่างห้องนั่งเล่นมันเป็นวันที่เพอร์เฟคอีกวันไม่มีคนเดินผ่านแต่สปริงเกอร์ก็ยังเปิดอยู่แล้วผมก็ได้ยินเสียงนกร้องอีกครั้งมันช่วยทำให้ใจเราสงบลงทิ้งฉันไว้ที่นั่นก็ได้นะผมพูดในที่สุดโดยเรานั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นทีวีปิดไว้ตลอดทั้งวัน
เราไม่รู้ต้องทำยังไงและคุยกันว่าเราควรโทรหาตำรวจหรืออะไรหรือเปล่าเวลาค่อยๆผ่านไปขณะที่เราพยายามหาทางว่าจะทำอะไรต่อแต่สิ่งที่อยู่ในใจผมคือสิ่งที่มันจะเกิดขึ้นในสิ่งที่เราควรจะทำตอนนี้มืดแล้วประมาณ 21:00 น โทรศัพท์ก็ดังคืนพ่อแม่ของคริสโทรมาถามว่าผมเห็นเขาบ้างไหมครับพวกเขาน่าจะเป็นห่วงแล้วพวกเขาเพิ่งจะกลับมาผมบอกไปว่าพี่โอเคและถามว่าพวกเขาจะมารับเราต้องพูดไม่ได้ไหมเพราะมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นพวกเขาอยากรู้ว่าเกิดอะไรแต่ผมบอกว่าเดี๋ยวเราจะบอกตอนนี้พ่อมาถึงแล้วเพราะเขาบอกว่าจะมาในไม่ช้าเราทั้งคู่ต่างก็โล่งใจเมื่อพบผู้ใหญ่กำลังจะมาจัดการเรื่องต่างๆในพวกเขาควรจะเชื่อพวกเราไม่ได้โกหกนะเพราะเขาจะไม่เชื่อแต่อย่างน้อยก็ให้เชื่อว่ามีสัตว์บางอย่างอยู่ในป่าที่เป็นอันตรายซึ่งงานก็โอเคพอแล้วกับพวกเราผมเข้าไปในครัวก็หยิบน้ำผลไม้จากตู้เย็นแล้วเพิ่งคิดได้ว่าผมไม่ได้ดื่มน้ำมันเลยทั้งวันผมได้ยินเสียงน้ำหยดมาจากสิงห์และปิดเกาะให้แน่นคืนแล้วก็ดกน้ำผลไม้เข้าไปขณะที่ผมกำลังเดินกลับไปที่ห้องนั่งเล่นน้ำเครื่องหยดอีกครั้งผมกดเปิดไฟรู้ว่าเสียงนั้นมันไม่ดังมาจากสิ่งหรือที่ไหนในห้องเลยมันเหมือนดังมาจากที่ไหนใกล้ๆผมได้มองออกไปที่สวนเห็นเงาสูงๆเลือนยืนยิงรัวด้านหลังอยู่ในความมืดอันที่จริงมันต้องดูเหมือนสิ่งเล็กมากกว่าเหงานั้นค่อยๆขยับออกจากรั้ว